วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

Up Size เสริมอึ้ม

1. การเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องวางยาสลบใช้เวลา ผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดแพทย์จะพันผ้ารัดหน้าอกไว้แน่นหนา มากเพื่อช่วยห้ามเลือด และตรึงเต้านมให้อยู่กับที่ คนไข้อาจรู้สีกตึง แน่นและปวดเป็นความรู้สีกปกติให้นอนนิ่งๆ ขยับตัวให้น้อยที่สุดแต่ ถ้าหายใจไม่ออกให้บอกแพทย์หรือพยาบาลเพื่อคลายผ้าที่รัดแน่นเกินไปออก
ก่อนกลับบ้าน แพทย์จะพันผ้ารัดหน้าอกให้กระชับประมาณ 7 วัน ค่อยเปลี่ยนเป็นสวมสปอร์ตบรา 1-4 สัปดาห์
อาการปวดมีอยู่ประมาณ 7-10 วัน และจะค่อยๆ หายไปในที่สุด อาจมีอาการชาที่แขนหรือเต้านมร่วมด้วย บางรายนาน 1-2 เดือน ถ้าเย็บแผลด้วยไหมธรรมดา สามารถตัดไหมได้ภายใน 7 วัน
เมื่ออาการปวดทุเลาลง ผู้ป่วยจะต้องนวดหน้าอกตามที่แพทย์ แนะนำเพื่อป้องกันการเกิดพังผืดยึดเกาะเต้านมจนทำให้หน้าอกแข็ง อาจหยดเบบี้ออยล์ลงบนฝ่ามือเพื่อลดการเสียดสีและทำให้นวดง่ายขึ้น
อาการบวม ถ้าผ่าตัดวาง ถุงนมใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular Placement) จะหายภายโน 1-2 เดือน แต่ถ้าวางถุงนมใต้ต่อมนํ้านม
(Subglandular Placement)จะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
IMG_8169
2. ปัญหาที่ต้องพิจารณา
2.1. เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 45,000-60,000 บาท
2.2. ประมาณ 10-20% ของผู้ที่เสริมหน้าอกจากแพทย์ท่านใด ก็ตามมีโอกาสที่หน้าอกจะแข็งจากพังผืดรัดอาจต้องผ่าตัดใหม่ และ อาจเกิดซํ้าได้อีก แม้จะป้องกันโดยการวางเต้านมโต้กล้ามเนื้อ และ การนวดร่วมกับการใช้ถุงนมผิวทรายก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้ ผลจากพังผืดรัดเต้านม จะทำให้เต้านมแข็ง ไม่สวย บางรายอาจ ดูกลมจนผิดธรรมชาติ หรือทำให้เต้านมบิดเบี้ยว
2.3. อาจมีการปวดกล้ามเนื้อ และอาจมีการอักเสบติดเชื้อรุนแรง ถึงขั้นถุงนมทะลุออกมาอย่างที่เคยเป็นข่าว “นมเน่า” แต่โอกาสเกิดขึ้น น้อยมากเนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า
2.4. เต้านมซิลิโคนหริอน้ำาเกลือไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง แต่ทำให้การ ตรวจหามะเร็งด้วย แมมโมแกรมยากกว่าปกติ ถ้ามีประวัติว่าคนใน ครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมต้องคิดให้รอบคอบ แต่ถ้าจำเป็นต้องเสริม จริงๆ สามารถใส่ถุงนมไว้ใต้กล้ามเนื้อ และต้องตรวจแมมโมแกรม สม่ำเสมอ
3. ขนาด
ขนาดมักจะเป็นคำถามหริอหัวข้อสำคัญที่ต้องพูดคุยกันระหว่าง แพทย์กับคนไข้ให้เข้าใจตรงกันแต่อย่าลืมว่ายิ่งอยากไต้เด้านมใหญ่ เท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสที่มันจะเลื่อนเคลื่อนผิดจากตำแหน่งมากเท่านั้น การพิจารณาขนาดของซิลิโคนควรจะดูรูปร่าง ความสูง รอบอก รอบเอว รอบสะโพก และเนื้อนมเดิมที่มีอยู่ ถุงนมที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงจะใช้ขนาด 200-280 มล. และ สำหรับสาวประเภทสอง จะใช้ขนาด 300-400 มล. หน้าอกห่างไม่สามารถเสริมให้เต้านมมาเบียดชิดติดกันได้ ขนาด ของเต้านมช้าย-ขวามักจะไม่เท่ากัน หลังจากเสริมหน้าอกแล้วจะเห็น ความไม่เท่ากันชัดเจนยิ่งขึ้น
4. ตำแหน่งในการวางถุงนม
4.1. เหนือกล้ามเนื้อหรือใต้ต่อมนํ้านม (Subglandular Placement) การผ่าตัดไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แพทย์บางท่านให้ยา
นอนหลับ ฉีดยาชาเฉพาะที่ โดยไม่ต้องวางยาสลบก็ทำไต้ อาการบวม ประมาณ 7-14 วัน และ 1 เดือน เข้าที่ เหมาะกับคนไข้ที่มีไขมันหรือ
เนื้อนมเพียงพอที่จะเป็นกันชนระหว่างผิวหนังกับถุงนม จะได้เต้านมที่ สวยงามเป็นธรรมชาติเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนไข้จะถามแพทย์เสมอว่า
“ทำไมของเพื่อนคนอื่นเสริมหน้าอกมา ไม่เห็นจะบวมหรือเจ็บมากเลยไม่กี่วันก็สวยงามแล้ว”
ข้อดี ของการวางถุงซิลิโคนไว้บนกล้ามเนื้อ (Subglandular Placement)
1. เมื่ออายุมากขึ้นจะไม่ปวดกล้ามเนื้อหน้าอก หากเป็นการวางถุง ซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อ เมื่ออายุมากขึ้นจะมีการอ่อนแรงทำให้รับ นํ้าหนักซิลิโคนได้น้อย จะทำให้มีอาการปวดแปลบๆ ได้
2. เจ็บน้อยกว่า (ในระยะแรก) ระยะพักฟืนสั้นกว่า
3. ไม่มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ
4. มองดูเป็นธรรมชาติมากกว่าถ้ามีเนื้อนมมากพอ
5. การผ่าตัดทำได้ง่าย
6. กรณีที่เต้านมคล้อยไม่มากอาจช่วยแก้ปัญหา เต้านมคล้อย ทำให้ไม่ต้องผ่าตัดกระชับเต้านม
7. สามารถใส่ถุงขนาดใหญ่มากๆ ได้
8. การผ่าตัดแก้ไขทำได้ง่ายกว่าใต้กล้ามเนื้อ
4.2. วางใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular Placement) ต้องวางยาสลบ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังผ่าตัดจะเจ็บ และบวมมาก ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เต้านมช่วงบนจะเต่งตึง ถุงนมเหมือนลอยสูง หลังจากยุบบวม เต้านมจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 2-4 เดือน หน้าอกจะ สวยงามเป็นธรรมชาติ
4.3. บริเวณที่ลงมีดผ่าตัด ได้แก่ ใต้รักแร้เป็นบริเวณที่นิยมใช้เพราะ สามารถช่อนแผลเป็นได้ แผลเป็นเกือบจะมองไม่เห็น บริเวณใต้ราวนม และลานหัวนมวางเต้านมง่ายและตรง แต่แผลเป็นเห็นชัด ยิ่งถ้าเป็น แผลคีรอยด์ ก็ยิงเห็นนูนเด่นชัด กว่าแผลเป็นจะหายหรือจางไป ต้องรอเวลาหลายเดือน
5. ชนิดของถุงนม
ปัจจุบันที่นิยมใช้จริงๆ มีอยู่ 2 อย่าง คือถุงนั้าเกลือกับถุง ซิลิโคนเหลวแบบผิวเรียบและผิวขรุขระ หรือผิวทราย ถุงน้ำเกลือ ข้อดีคือ ถ้ารั่วซึมก็จะดูดซึมเข้าลู่ร่างกายได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ ข้อเสียคือ คลำดูไม่เป็นธรรมชาติอาจมีเสียงกระเพื่อมไหลของ นํ้าเกลือและรั่วซึมได้ง่ายกว่าชิลิโคน ถุงซิลิโคนเมื่อสัมผัสจะให้ ความรู้สีกเป็นธรรมชาติกว่า คือนุ่มเนียน รูปทรงสวยงาม โอกาส จะรั่วซึมมีน้อย โดยเฉพาะชนิดใหม่ หรือ High cohesive จะเหนียว ทนทานเป็นพิเศษ
ปัจจุบันนิยมใช้ถุงซิลิโคนผิวทราย หรือผิวขรุขระชนิดกลม ส่วน ชนิดหยดน้ำซี่งมีราคาแพงกว่าให้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเหมาะสม ถูกต้อง ถูกใจ

สำรองคิวนวดหน้าอก 090 989 6996


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น